การรักษาปัญหาผิวมัน หน้ามัน ทำยังไงดี และ 5 ขั้นตอนบำรุงผิวหน้า สวยใสแบบสาวเกาหลี

nationalbb สุขภาพและการออกกำลังกาย , ,

เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก สำนวนสอนหญิงที่เป็นความจริงที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตหรือของจุกจิกไว้ใช้ประทินโฉมก็ล้วนมากสิ่งมากความ หนักไปกว่านั้นคือการแก้ปัญหาผิวพรรณที่ธรรมชาติบรรจงแปะมาให้ตั้งแต่เกิด และหากพูดถึงปัญหาผิวพรรณอย่างหน้ามันแล้ว หลายคนอาจมองว่าเป็นเทคนิคการแต่งหน้าที่ดูสวยงามตามกระแส แต่เชื่อเถอะว่าในสภาพอากาศบ้านเราเช่นนี้ กับเทรนด์ความมันเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ควรอยู่ด้วยกันเลย

หน้าเรามันได้ยังไง

ปัญหาหน้ามันเกิดจากต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ ทั้งยังมีสาเหตุของปัญหาที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน เช่น

  • กรรมพันธุ์ หากพ่อแม่เป็นคนผิวมันอยู่แล้ว แน่นอนว่าลูกก็จะมีโอกาสผิวมันได้เช่นกัน
  • ฮอร์โมน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ร่างกายเกิดความตึงเครียด ความเครียดจะมีส่วนทำให้ฮอร์โมนเกิดความผิดปกติ และผลิตความมันมากขึ้นได้ รวมถึงช่วงวัยเจริญพันธุ์ในวัยรุ่น ระดับฮอร์โมนที่เกิดการเปลี่ยนแปลง จึงอาจทำให้เกิดเป็นสิวและหน้ามันควบคู่กันได้
  • การตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในร่างกายจะถูกผลิตขึ้นมากกว่าปกติ จึงทำให้สภาพผิวของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์เกิดความมันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการเปลี่ยนแปลง
  • ยาคุมกำเนิด สำหรับคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดไปด้วยนั้น อาจทำให้มีผลต่อการเกิดผิวมันร่วมด้วย เนื่องจากยาคุมกำเนิดมีส่วนผสมสำคัญคือฮอร์โมนเอสโตรเจน
  • เครื่องสำอางบางชนิด ถือเป็นปัจจัยภายนอก ซึ่งขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของคนไข้เป็นสำคัญ เพราะสภาพผิวแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ดังนั้น หากคนไข้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน หรือเบสที่ค่อนข้างเยอะ ก็อาจเป็นการเพิ่มปัญหาหน้ามันได้อย่างไม่รู้ตัว
  • สภาพอากาศ เป็นปัจจัยภายนอกอีกอย่างหนึ่ง ที่เข้าไปกระตุ้นการทำงานของต่อม รวมถึงฮอร์โมน ให้เกิดการผลิตที่มากขึ้นได้ เช่น เมื่อสภาพอากาศร้อนร่างกายจะผลิตเหงื่อและน้ำมันออกมามากขึ้น เพื่อเป็นการระบายความร้อนและรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายให้เป็นไปตามปกติ
  • ประเภทอาหารที่มีปริมาณของแป้งกับน้ำตาลเยอะ เช่น เค้ก ช็อกโกแลต คุกกี้ และอาหารที่มีรสชาติหวานชนิดต่างๆ จะทำให้ร่างกายเกิดกระบวนการไกลเคชั่น (Glycation) มาก ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตไขมันและกระตุ้นการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ทั้งนั้นอาหารหรือของหวานที่มีส่วนประกอบของแป้งกับน้ำตาลน้อย อาทิเช่น ขนมที่ทำจากช็อกโกแลต 100 เปอร์เซ็นต์ อาจส่งผลทำให้เกิดสิวได้น้อยกว่าขนมที่ทำจากแป้งและน้ำตาลในปริมาณมาก

ผลเสียโดยตรงของสาวหน้ามัน

ปัญหาทั่วไปที่เกิดจากภาวะหน้ามันคือ สิว เพราะสิวต้องอาศัยความมันบนใบหน้าในการเกิดขึ้นมา นอกจากนี้ยังพบปัญหาของรูขุมขนกว้างกว่าปกติ รวมถึงปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใสอย่างที่เคย มากไปกว่านั้น ในกรณีที่มีปัญหาผิวมันค่อนข้างมาก ก็อาจทำให้กลายเป็นลักษณะต่อมไขมันโตที่เป็นลักษณะตุ่มเนื้อเล็กๆ ขึ้นมาได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามต่อมไขมันโตดังกล่าว ก็ไม่สามารถลุกลามไปเป็นโรคร้ายในอนาคตได้แต่อย่างใด หากแต่จะสร้างความไม่มั่นใจแก่เจ้าของปัญหาเพียงเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นในความเยิ้มก็ยังมีข้อดีแอบแฝงอยู่ เนื่องจากธรรมชาติของคนเราเมื่ออายุมากขึ้นแล้ว สภาพความมันของผิวกลับผลิตสวนทางลงไป ดังนั้น คนที่มีปัญหาหน้ามันจะค่อนข้างโชคดีตรงที่ช้าต่อการมีริ้วรอย เพราะเมื่ออายุมากขึ้นผิวหน้าจะยังคงมีความชุ่มชื้นหลงเหลืออยู่ จึงทำให้ยากต่อการเกิดผิวแห้งและรอยตีนกาตามวัย

ผิวหน้ามันใช้อะไรให้หายดี

การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่มีสภาพผิวหน้ามัน (และทุกสภาพผิว) คือ ควรอ่านฉลากข้างกล่องหรือตัวผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดทุกครั้ง ในกรณีของคนผิวมันควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil) ในปริมาณน้อย

โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าที่ควรเลือกใช้ในรูปแบบเจล (Gel) เพราะจะช่วยลดความมันลงได้ในส่วนหนึ่ง เนื่องจากมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำมากกว่าน้ำมัน นอกจากนี้การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทยาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อระดับความมันบนใบหน้าได้ เช่น ยารักษาสิว (AHA, Lactic acid) เพราะคนที่มีปัญหาหน้ามันส่วนใหญ่ จะถูกเพิ่มเติมด้วยปัญหาสิวร่วมด้วย ซึ่งยารักษาสิวเป็นสิ่งที่มีผลทำให้ผิวแห้งอยู่แล้วในระดับหนึ่ง รวมถึงกลุ่มยาประเภทวิตามินเอที่อาจมีผลทำให้ระดับความมันลดลงและรูขุมขนบนใบหน้ามีขนาดที่เล็กลงได้

แต่แนะนำให้คนไข้ปรึกษาปริมาณการใช้ และความเข้มข้นที่เหมาะสมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เนื่องจากการใช้ยากลุ่มประเภทวิตามินเอ เพื่อการรักษาต้องเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามระดับปัญหาของคนไข้ จึงควรผ่านการวิเคราะห์สภาพผิวอย่างถูกต้องก่อนใช้ยาในการรักษาทุกครั้ง

การรักษารูขุมขนกว้างและหลุมสิว

อาการหน้ามันยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาสิวก็พร้อมจะขึ้นมาจับจองพื้นที่บนใบหน้าอย่างแน่นอน การรักษาปัญหาผิวมันของทางการแพทย์มีอยู่ด้วยกันหลากวิธี ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์หน้าใส IPL, บำรุงผิวหน้า IONTO (ไอออนโต) หรือ การผลัดเซลล์ผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion) ซึ่งเป็นวิธีลดระดับความมันบนใบหน้าได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

ส่วนหนึ่งของผลจากการรักษาจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้เป็นสำคัญ อีกทั้งการรักษาก็ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด เพราะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหาในแต่ละคน อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีเลเซอร์ อาจเป็นวิธีรักษาที่ดีที่สุด แต่อาจทำให้ผิวเกิดรอยขุย (ระยะ Downtime) ซึ่งเป็นผลข้างเคียงตามปกติหลังการรักษาและจะจางหายไปภายใน 5-7 วัน

นอกจากนี้ยังมีวิธีรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ช่วยลดขนาดรูขุมขน และเติมความชุ่มชื้นให้ใบหน้า แต่ระยะเวลาในการเห็นผลจะอยู่ที่ประมาณ 3-6 เดือน หลังจากนั้นคนไข้จะต้องกลับมาฉีดซ้ำ

ลดปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเอง

นอกจากการคัดกรองผลิตภัณฑ์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวแล้ว สิ่งหนึ่งที่ชาวหน้ามันมักนิยมสร้างปัญหากันแบบไม่รู้ตัว คือ การล้างหน้าที่ผิดวิธี เนื่องจากหลายคนมักมีความเข้าใจแบบผิดๆ ว่า ต้องล้างหน้าให้บ่อยขึ้น เพื่อเป็นการชำระความมันเหล่านั้นให้หลุดออกไป

แต่ที่จริงแล้ววิธีเหล่านั้นกลับเป็นการกระตุ้นให้ใบหน้าเกิดความมันมากขึ้น เพราะการล้างหน้าจะทำให้ผิวแห้งขึ้นได้ในภายหลัง ส่งผลให้ผิวเกิดการผลิตความมันขึ้นมาทดแทนมากขึ้น อีกทั้งคนไข้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดเป็นประจำ ก็ควรเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นแทน เช่น การใส่ห่วงป้องกัน การฝังยาคุมกำเนิด (เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราวอีกแบบหนึ่ง โดยใช้ยาคุมกำเนิดชนิดแท่งขนาดเล็กฝังลงไปยังบริเวณท้องแขน) หรือการเลือกรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนในปริมาณน้อย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การใช้กระดาษซับมันก็ยังเป็นการลดความมันลงได้แบบชั่วคราว และไม่ควรซับหน้าบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งและหน้ามันมากขึ้น เหมือนกรณีที่ล้างหน้าบ่อยได้เช่นกัน

5 สเต็ปผิวสวยเด้งแบบสาวเกาหลี

หลังจากนั่งดูซีรีย์เกาหลีกันจนน้ำตาไหลพราก นอกจากจะอินกับเรื่องราวของซีรี่ย์แล้ว สาวๆ ก็มีอันต้องเคลิบเคลิ้มกับผิวหน้าที่แลดูเปล่งปลั่ง ฉ่ำวาวของหนุ่มหล่อสาวสวยในเรื่องกันอีกด้วย ซึ่งเทรนด์การแต่งหน้าของซีรี่ย์เกาหลีจะเน้นการเปลือยผิว เมคอัพโทนธรรมชาติ เผยให้เห็นถึงผิวสวยสดใส ไร้ริ้วรอยและจุดด่างดำ

สำหรับสาวสไตล์ไทยอย่างเราๆ ถ้าอยากมีผิวสวยใสแบบสาวเกาหลีก็ดูจะไม่ใช่เรื่องยาก มีเคล็ด (ไม่) ลับของการดูแลผิวหน้าแบบสาวเกาหลีมาฝากกัน

การดูแลผิวแบบสาวเกาหลี ค่อนข้างได้รับความสนใจจากสาวๆ ทั่วโลก แต่ทิปส์การบำรุงผิวไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดค่ะ เพียงแค่ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณก็สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อบำรุงผิวให้สวยกระจ่างใสได้

1.ความสะอาดนั้นสำคัญ

สำหรับสาวๆ ที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำ การเช็ดเครื่องสำอางออกจากผิวหน้าให้หมดจด เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ของการล้างหน้า ขั้นตอนนี้สาวๆ หลายคนอาจกำลังทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า การเช็ดเครื่องสำอางให้หมดจด ไม่จำเป็นต้องเช็ดแรงๆ เพราะคิดว่าจะสะอาดกว่าในความเป็นจริง แล้วควรเช็ดทำความสะอาดอย่างเบามือ เพราะผิวหน้าเป็นส่วนของผิวหนังที่ค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่าย การใช้มือถูหรือขัดแรงๆ จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองสำหรับสาวๆ ในประเทศเกาหลี การดูแลและการทำความสะอาดผิวหน้าทุกขั้นตอน ต้องทำด้วยความอ่อนโยน ซึ่งการเช็ดล้างทำความสะอาดผิวหน้า ประกอบด้วย 2 ปัจจัยสำคัญดังนี้

1.เลือกผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอาง ที่มีคุณภาพที่จะช่วยเช็ดล้างเครื่องสำอาง ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้อย่างหมดจดได้ตามต้องการ โดยไม่เช็ดหรือขัดผิวหน้าแรงๆ

2.เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึง และสามารถขจัดความมันส่วนเกินออกได้อย่างหมดจด โดยยังคงความชุ่มชื้นให้กับผิว

2.โทนเนอร์ ตัวช่วยสุดเจ๋งให้ผิวหน้าสุดคลีน

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่มักจะถูกมองข้ามไป ว่าอะไรคือประเด็นสำคัญในการใช้โทนเนอร์ โทนเนอร์จะช่วยลดรอยผิวที่หยาบกร้าน และเป็นรอยแดงที่เกิดจากสิวได้จริงหรือไม่

แต่สำหรับสาวๆ ในประเทศเกาหลีทุกคนรู้ว่าขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนสำคัญ การเช็ดทำความสะอาดด้วยโทนเนอร์จะเป็นการกระชับผิวหลังทำความสะอาด และช่วยคืนความสมดุลค่า pH บาลานซ์ให้กับผิว ช่วยให้เตรียมผิวให้พร้อม สำหรับการแต่งหน้าพร้อมฟื้นบำรุงผิวในครั้งต่อไป อีกทั้งการเติมอาหารผิว เช่น การบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นกระจ่างใส สิ่งสำคัญควรเลือกใช้โทนเนอร์ชนิดปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวยิ่งแห้งและตกสะเก็ดมากขึ้น

3.การเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว

เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่คนส่วนใหญ่รู้สึกเหมือนๆ กันก็คือ อะไรคือความแตกต่างระหว่างครีมบำรุงผิว และเซรั่ม จริงๆ แล้วผิวต้องการอะไร และสามารถรู้ได้อย่างไรว่า ควรนำไปใช้แบบไหน และอย่างไรคือสิ่งที่ผิวต้องการ เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยากและซับซ้อน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ประเทศเกาหลี จะรวมเอา 3 ปัญหาไว้ในขวดเดียว

การบำรุงผิวด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นอันดับแรกๆ ที่ควรทำ อีกทั้งยังลดการเกิดจุดกระสีน้ำตาลและริ้วรอยต่างๆ การบำรุงด้วยเซรั่มเป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวหน้า หลังจากการทำความสะอาดผิว โดยคุณสามารถเลือกแต้มเซรั่มบริเวณเฉพาะจุดที่มีปัญหาหรือต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ หรืออาจผสมเซรั่มกับครีมบำรุงผิว และนำมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้าและลำคอ หรือบริเวณเฉพาะในการบำรุง คุณสามารถบีบครีมบำรุงลงบนฝ่ามือละเลงครีมผสมกัน และนำมาทาผิวในจุดที่ต้องการได้เช่นเดียวกัน เป็นการบำรุงผิวที่รู้สึกได้ถึงความประทับใจ

4.เติมอาหารผิวด้วย “มาส์ก”

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกันมานาน กับเจ้ามาส์กแผ่นสีเขียวๆ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยลอง และอาจอยากลองเอาเจ้าแผ่นมาส์กสีเขียวๆ แบบนี้มาลองแปะบนหน้าดูบ้าง เพราะอยากรู้ว่าจะช่วยบำรุงผิวได้จริงมากน้อยแค่ไหน

แต่เชื่อไหมคะสำหรับที่ประเทศเกาหลี สาวๆ เกาหลีถือว่าการมาส์กหน้าแบบนี้ ถือเป็นขั้นตอนการบำรุงผิวหน้า และการดูแลผิวตามปกติของพวกเขา และบ่อยครั้งที่ไม่ได้มาส์กแค่แผ่นเดียว แต่เพิ่มแผ่น มาส์กอีกแผ่นเพื่อการบำรุงที่ล้ำลึกยิ่งขึ้น ก่อนจะตามด้วยโทนเนอร์และมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มขั้นตอนในการดูแลผิว สำหรับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ ซึ่งใช้เวลาไม่นานในหนึ่งสัปดาห์เพียงแค่หาเวลาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อมาส์กหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่เรานอนหลับ การมาส์กก็จะทำให้ผิวหน้าได้รับการบำรุงที่ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น

การบำรุงผิวด้วยการมาส์กหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยคุณจะประทับใจกับผิวของคุณภายหลังการใช้มาส์ก และจะทำให้คุณรู้สึกดีกับผิวของคุณมากขึ้น

5.ปกปิด + ปกป้อง ด้วยครีมกันแดด/บีบีครัม

สำหรับประเทศเกาหลี สาวๆ เกาหลีค่อนข้างให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวสวยใสจากแสงแดด อาจต้องยอมลงทุนกับการเลือกซื้อครีมกันแดด และเพิ่มเวลาในการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน เพื่อเป็นการปกป้องไม่ให้ผิวหมองคล้ำเสีย ที่จะเกิดจากรังสียูวีเอ ยูวีบี จากแสงแดด

การเลือกครีมกันแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีคุณภาพ และมีค่าเอฟพีเอฟที่เหมาะสม เพราะสำหรับสาวๆ เกาหลีส่วนใหญ่ จะเลือกใช้ครีมกันแดดหรือบีบีครีม ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เพื่อช่วยปกป้องผิวอย่างเหนือชั้นจากแสงแดด และทำให้ผิวสดชื่นสวยท้าแดดสมบูรณ์แบบไปตลอดวัน

หากสาวๆ สามารถดูแลผิวได้แบบนี้เป็นประจำ ปัญหาผิวพรรณก็จะกลายเป็นเรื่องผิวๆ ที่ไม่ใช่ปัญหาหนักอกหนักใจสาวๆ ยุคใหม่อีกต่อไป และคุณก็อาจมีผิวสวยใสเฉกเช่นซุปตาร์เกาหลีได้เช่นกัน

You May Also Like..

การดูแลสุขภาพจิตในช่วงโควิด-19

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้คนทั่วโลก ทำให้เกิดภาวะเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เป็นต้น การดูแลสุขภาพจิตในช่วงโควิด-19 สามารถทำได้ ดังนี้ รับข่าวสารอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงการรับข่าวสารที่มากเกินไปหรือมีเนื้อหาที่รุนแรง สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับตนเอง เช่น ตกแต่งบ้านให้สวยงาม ฟังเพลงที่ชอบ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ พบปะพูดคุยกับคนใกล้ชิด พูดคุยถึงความรู้สึกของตนเองกับคนที่คุณไว้ใจ ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ หากอาการรุนแรง ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง […]

กินอาหารคลีนอย่างไรให้ถูกวิธี

อาหารคลีน เป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่เน้นการบริโภคอาหารธรรมชาติ ปราศจากสารปรุงแต่ง สารเคมี หรือสารกันบูด มีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่างๆ เช่น ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น การกินอาหารคลีนอย่างถูกวิธี ควรคำนึงถึงหลักโภชนาการ ดังนี้ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นผักและผลไม้เป็นหลัก […]

ประโยชน์ด้านสุขภาพ 5 อันดับแรกของการรับประทานอาหารออร์แกนิก

ประโยชน์ของการกินอาหารออร์แกนิกมีมากมายและหลากหลายนี่คือสิบสิ่งที่สำคัญที่สุด: 1. อาหารออร์แกนิกมีสุขภาพดีกว่าอาหารที่ปลูกตามอัตภาพ การทำเกษตรอินทรีย์อาศัยปัจจัยธรรมชาติเช่นปุ๋ยหมักซึ่งช่วยปรับปรุงสุขภาพของดินและส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพนอกจากนี้โดยทั่วไปแล้วสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและสารกำจัดวัชพืชจะไม่ถูกนำมาใช้กับพืชอินทรีย์ซึ่งสามารถสะสมสารพิษที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้ 2. อาหารออร์แกนิกดีต่อสิ่งแวดล้อม การเกษตรแบบเดิมมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในแง่ของวิธีการผลิตและการกำจัดของเสียตัวอย่างเช่นการใช้น้ำปุ๋ยและทรัพยากรอื่นๆมากเกินไปส่งผลให้เกิดการไหลบ่าที่ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำและทำให้เกิดบุปผาสาหร่ายที่เป็นอันตรายนอกจากนี้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเกษตรทั่วไปยังคิดเป็นสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดจากกิจกรรมของมนุษย์เมื่อเปรียบเทียบการทำเกษตรอินทรีย์มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมน้อยกว่าเนื่องจากใช้ที่ดินปุ๋ยและยาฆ่าแมลงน้อยกว่า 3. อาหารออร์แกนิคปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากพืชอินทรีย์ไม่ได้สัมผัสกับสารเคมีที่เป็นพิษพืชเหล่านี้จึงมักปราศจากสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายเช่นยาฆ่าแมลงสารกำจัดวัชพืชและโลหะหนักอันที่จริงการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการบริโภคอาหารที่ผลิตแบบออร์แกนิกอาจปกป้องผู้บริโภคจากมะเร็งบางชนิดได้จริง 4. อาหารออร์แกนิกดีกว่าสำหรับสุขภาพลำไส้ของคุณ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งสามารถสนับสนุนการทำงานของลำไส้ให้แข็งแรงนอกจากนี้แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ที่พบในดินอินทรีย์สามารถป้องกันแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคและส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหารโดยรวม การบริโภคอาหารออร์แกนิกเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ด้านสุขภาพจิตที่ดีขึ้นซึ่งรวมถึงอาการวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าที่ลดลงประโยชน์เหล่านี้อาจเกิดจากสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูงและสารอาหารอื่นๆที่พบในอาหารออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมักจะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าเพราะปราศจากสารปรุงแต่งและสารปรุงแต่งรสเทียมนอกจากนี้เกษตรกรจำนวนมากที่ปลูกพืชอินทรีย์ยังเลี้ยงปศุสัตว์ที่กินหญ้าซึ่งให้ผู้บริโภคมีเนื้อคุณภาพสูงที่มีไขมันและโคเลสเตอรอลต่ำตามธรรมชาติ 5. อาหารออร์แกนิกดีกว่าสำหรับการดูแลผิวของคุณ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมักอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารอื่นๆที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพผิวและลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างอายุนอกจากนี้การใช้น้ำมันออร์แกนิกหรือโลชั่นโดยตรงกับผิวสามารถช่วยเพิ่มการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและนำส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์ไปลึกสู่ชั้นผิวในตำแหน่งที่ทำงานได้ดีที่สุด ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้และลดการอักเสบในลำไส้นอกจากนี้การบริโภคสารอินทรีย์ยังช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่เป็นมิตรในลำไส้ซึ่งอาจมีบทบาทในการปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหารโดยรวม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *