วันนี้เราจะมาพูดถึงปัจจัยที่จะทำให้ยอดดาวเตะชาวบราซิเลี่ยนเป็นผู้ท้าชิงเต็มตัวในการแย่งรางวัลบัลลงดอร์ที่นักเตะทุกคนใฝ่ฝันถึง รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป (European Footballer of the Year) หรือรู้จักกันในชื่อ บาลงดอร์  (Ballon d’Or – ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ลูกบอลทองคำ”) เป็นรางวัลที่มอบให้แก่นักฟุตบอลที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในรอบปี โดยนักฟุตบอลคนนั้นต้องเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลสังกัดยูฟ่า จึงจะมีสิทธิ์ได้รับรางวัล เรามาดูกันว่าทำไม 4 ปัจจัยนี้ จะทำให้ เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซังตุส ฌูนีโยร์ คว้าบัลลงดอร์ในอีก 2 ปี

เล่นฟุตบอลเพื่อตัวเอง

หลายๆคนก็คงรู้สึกว่าความต้องการของเนย์มาร์
ที่ย้ายออกมาจากบาร์เซโลน่านั้นก็เพื่อที่จะออกจากร่มเงาของเมสซี่และ จะสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองขึ้นมาใหม่

เพราะเขาคิดว่าด้วยฝีเท้าและความสามารถของเขาสมควรที่จะเป็นพระเอกมากกว่าพระรอง

แต่ก็คงต้องเห็นด้วยเพราะด้วยฝีเท้าและทักษะของเนย์มาร์แล้วสมควรจะเด่นมากกว่าตอนที่อยู่บาร์เซโลน่าและการย้ายมาเปแอสเช

นั้นก็ให้ได้คำตอบกับทุกคนแล้วว่าเขานั้นสุดยอดเพียงใด ด้วยการลงเล่นไป 17 เกม ยิงได้ 15 ประตู แอสซิสต์อีก 9 ลูกและถือว่าโดดเด่นที่สุด ณ ลีกเอิงในเวลานี้..วิเคราะห์ฟุตบอล

เพื่อนในทีมสนับสนุน

แก๊งบราซิล
คงรู้กันอยู่ว่าในเปแอสเชแก็งบราซิลมันเยอะเข้าข้างกันแบบสุด ๆ คนอื่นๆก็ต้องคล้อยตามด้วยความเป็นซุปตาร์ของเจ้าเนย์แต่มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

คือใครๆต่างก็รุ้ว่าเนย์มาร์มันทำได้เวลาลงไปในสนามสามารถแบกได้เลยเล่นเอ็นเตอร์เทรนคนดูบุคคลิกก็ให้กับการเป็นสตาร์ดัง

แถมยังทำลูกเหลือเชื่อ ได้หลาย ๆครั้งอีก ดูแล้วโดดเด่นที่สุดแล้ว แล้วการผสมผสานของ 3 กองหน้านั้นก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเนย์มาร์นั้นเด่นที่สุด ทุกคนคอยซัพพอร์ตตลอดเวลาอยู่แล้ว

ฝีเท้าและชื่อเสียงใกล้ระดับโด้และเมสซี่ที่สุดแล้ว

ไต่อันดับมาแบบติด ๆ
เรื่องนี้คงจะไม่มีใครเถียงว่าคาแร็กเตอร์ของเนย์มาร์นั้นฉายแววซุปตาร์มาตั้งแต่ที่ยังอยู่กับบาร์เซโลน่าแล้วดูคล้าย ๆ

โรนัลโด้สมัยที่เพิ่งขึ้นเป็นข่าวมากมายรวมทั้งฝีเท้าที่สุดโหด และมีบรรดาแฟนๆติดตามในโลกโซเชี่ยลเป็นจำนวนมาก

และการออกจากบาร์เซโลน่าย้ายมาเปแอสเชนี้ก็เหมือนกับการประกาศตนแล้วว่าข้านี่แหละคือผู้ท้าชิงอีกคน นี่แหละ 1 ใน 3 จตุรเทพ ณ เวลานี้

เวลาของคลื่นลูกใหม่

เก่งแค่ไหนก็แพ้วัยและเวลา
แฟนบอลทุกๆคนก็คงทราบกันดีว่าตอนนี้ โรนัลโด้และเมสซี่นั้นก็อายุก้าวขึ้นไปสู่เลข 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้วมันคงใกล้จะหมดเวลาของการห้ำหั่นของสองเทพแล้วคาดว่าในอีกประมาน 2 – 3 ปี

ไม่เกินจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ มากขึ้นเหล่าสตาร์รุ่นใหม่จะขึ้นมาแทนพวกเขาซึ่งมันก็เป็นไปดังวัฏจักรกีฬา เคยมีคำพูดที่ว่า “ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าผมควรจะแขวนสตั๊ดตอนไหน คำตอบที่ได้มาก็คือ : คลื่นลูกใหม่จะบอกนายเอง “

นี่แหละคือคำพูดของผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอล ดังนั้นเนย์มาร์นั้นตอนนี้ในวัย 25 ปี ยังอยู่ในจุดที่สดแบบนี้ไปอีก 6 ปีแล้วก็นี้ก็ยังไม่เห็นใครในรุ่นเดียวกันที่จะโดดเด่นและ

ฉายแววซุปตาร์เหมือนเขาเลยเพราะเหตุนี้แหละจะทำให้เนย์มาร์มีโอกาสยึดตำแหน่งบัลลงดอร์ไปซัก 2-3 สมัยหากยังรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ไปได้ตลอดอาชีพการค้าแข้ง

อ่านเรื่องราวสาระดีๆต่อได้ที่.. http://nationalbba.com